1. โ กห กเก่งเป็นเลิศ! ขี้โม้เบอร์แรง
ไม่ว่าจะโ กห กในเรื่องเล็ก ๆ หรือเรื่องคอขาดบาดต า ย ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทั้งนั้นค่ะ เป็นเพื่อนกันก็ต้องไว้วางใจซึ่งกันและกัน บางคนโ กห กว่าบ้านรวย โ กห กว่ามีแฟน หล่อ รวย
มีงานการดี ทั้ง ๆ ที่แชทเงียบกริบ หรือเรื่องอะไรต่าง ๆ นานา เพื่อให้ได้เป็นที่ยอมรับของคนอื่น แถมขี้โม้ อวดเรื่องของตัวเองบ่อย ๆ คนแบบนี้อยู่ใกล้ ๆ แล้ว Toxic มาก!
ต้องคอยเออออ ตามไปด้วยเพื่อไม่ให้เพื่อนเสียใจ ถ้าเป็นแบบนี้ฝืนคบกันไปก็ไม่แฮปปี้ เป็นเพื่อนกัน ก็ต้องยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกันได้ ไม่จำเป็นต้องโ กห กเลยค่ะ
เพราะถ้าโ กห กแล้วก็ต้องโ กห กต่อไปเรื่อย ๆ เข้าหากันด้วยความจริงใจจะดีกว่า ไม่ต้องเหนื่อยที่จะต้องหาเรื่องมาโ กห กด้วย
2. ขี้นินทา ขายความลับเพื่อน
แน่นอนว่าอันดับ 1 ที่ทำให้เพื่อนรักแตกคอกันมากที่สุด คือการเอาเรื่องส่วนตัวไปซุบซิบนินทากับคนอื่น เพื่อทำให้เพื่อนดูแ ย่ การที่เพื่อนไว้ใจเล่าเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว หรือเล่าความลับให้ฟัง
ก็เท่ากับว่าให้ความไว้เ นื้ อเชื่อใจในระดับหนึ่ง แต่การเอาความลับของเพื่อนไปเปิดเผย ทำให้โดนล้อ โดนนินทา และทำให้เพื่อนอับอาย ก็ไม่ต่างอะไรจากการหักหลังเพื่อนเลยละค่ะ
ความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญ ใคร ๆ ก็ไม่ชอบถ้าโดนหักหลังใช่ไหมล่ะคะ เพื่อนแท้เขาไม่หักหลังกันหรอกค่ะ
3. ไม่เคารพกันและกัน รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าเรื่องไหนที่เพื่อนไม่อย ากเล่า ไม่อย ากบอก ก็ไม่จำเป็นต้องไปเซ้าซี้หรือบังคับให้เพื่อนเล่า เพื่อนอาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้
พูดไม่ได้ อาจจะยังไม่พร้อมที่จะเล่า หรือการช่วยเหลือบางอย่างที่เพื่อนไม่ได้ต้องการ แต่ยัดเยียดความช่วยเหลือนั้นจนเพื่อนอึดอัดหรือรำคาญใจ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเช่นกันค่ะ
หรือบางคนแอบเอาโทรศัพท์ไปเปิดรูป โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม แอบเอาโทรศัพท์เพื่อนไปแชทกับคนอื่น ยืมของส่วนตัวโดยเจ้าของไม่ได้อนุญาต ฯลฯ รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวเกินไป
แล้วมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องขำ ๆ เพื่อนแบบนี้ก็ Toxic เหมือนกันค่ะ เพราะคนเรามีนิสัยและเหตุผลที่แตกต่างกัน การเคารพกันและกัน หรือเคารพพื้นที่ส่วนตัวของเพื่อน
เป็นอะไรที่เพื่อนดี ๆ สมควรทำค่ะ
4. แข่งขันตลอดเวลา เหมือนเกิดมาเป็นไก่
เป็นเพื่อนก็ต้องคอยสนับสนุน คอยชื่นชมและให้กำลังใจกันและกัน แต่เพื่อนที่ชอบบลัฟ ชอบแข่งขันกับเพื่อนด้วยกันเองบ่อย ๆ แบบนี้ถือเป็นเพื่อนไม่ดีค่ะ เพราะว่าเพื่อนที่ดี
เขาจะไม่มองเพื่อนด้วยกันเป็นคู่แข่ง เขาจะคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน คอยชมเสมอ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วขนาดไหนก็ตาม ถ้าขิงกันเรื่องเล็ก ๆ ขำ ๆ ก็ไม่เท่าไร แต่เพื่อนที่
แข่งขันเอาเป็นเอาต า ย เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นตลอดเวลา เห็นใครดีกว่าไม่ได้ ต้องอิจฉาไปซะหมด แถมไม่เคยยินดีกับความสำเร็จของเราเลย มองว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ
ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ เพื่อนแบบนี้ไม่โอเค!
5. เพื่อนที่ชอบบังคับ เหมือนตัวเองเป็นเจ้าชีวิตคนอื่น
เพื่อนที่ทำตัวเป็นบอส จุกจิก จู้จี้กับชีวิตคนอื่น พย าย ามบังคับให้คนอื่นทำแบบนั้นแบบนี้ตามใจตัวเอง บังคับ ฝืนใจให้เราทำอะไรที่ไม่ชอบ หรือจิกหัวใช้เหมือนเราเป็นเบ๊ พอไม่ทำให้
ก็หงุดหงิดหรือโกรธใส่ แล้วเราต้องคอยเป็นฝ่ายตามง้อ ตามตื๊ออยู่เสมอ ๆ คนแบบนี้หลีกให้ไว ๆ เลยค่ะ เป็น Toxic Friends อีกหนึ่งอย่างที่ควรเลิกคบ ขนาดพ่อแม่เรายังบังคับไม่ได้เลย
แล้วเพื่อนเป็นใครถึงมาบังคับเรา ถูกไหมคะ? ไม่มีใครอย ากโดนบังคับให้ทำอะไรที่ไม่ชอบหรอกค่ะ เพื่อนที่คอยบงการ หรือคอยคอนโทรลคนอื่นแบบนี้ อยู่ใกล้ ๆ แป๊บเดียวก็อึดอัดแล้วค่ะ
จะทนคบไปทำไมให้เสียเวลา!
6. ไม่มีความเกรงใจซึ่งกันและกัน
จะมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ที่ชอบยืมเงินแล้วไม่คืน พอทวงคืนแล้วบึนปากใส่! แทบจะกราบให้เพื่อนใช้หนี้ เพื่อนแบบนี้ จัดเข้า Toxic Friends เลิกคบเพื่อนแบบด่วน ๆ เลยค่ะ เพราะไม่มีความ
เกรงใจซึ่งกันและกันเลย ไม่ว่าจะยืมเงิน ยืมของ แล้วไม่ชอบคืน คิดว่าของเพื่อนเหมือนของเราไปซะทุกอย่าง แบบนี้ไม่เอา เรื่องเงินนี่ทำมิตรภาพสั่นคลอน ทำให้ต้องตัดความสัมพันธ์
มานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะความสัมพันธ์แบบเพื่อน แบบแฟน หรือแบบครอบครัว ก็ควรจะมีความเกรงใจซึ่งกันและกัน เอาใจเขามาใส่ใจเรา จะช่วยให้รั กษ าความสัมพันธ์ได้ยืดค่ะ
7. เพื่อนที่ทำให้รู้สึกอึดอัด เวลาไปไหนมาไหนด้วย
เวลาไปไหนมาไหนด้วย รู้สึกอายคนอื่น เพราะว่าเพื่อนไม่รั กษ ามารย าทต่อส่วนรวม คิดว่าถ่อยแล้วเท่ พูดเสียงดังโหวกเหวกโวยวาย ทิ้งขยะไม่ลงถัง เดินขวางทางเป็นแผงแล้วเดินช้า
ขวางทางคนอื่น ฯลฯ ทำให้เรารู้สึกอึดอัด และต้องคอยทนกับสายตาแปลก ๆ ของคนรอบข้าง ไม่มีจิตสำนึก แถมยังต้องคอยขอโทษแทนเพื่อนอยู่ตลอด ๆ อีก ถ้าคบแล้วรู้สึกไม่ชอบตัวเอง
รู้สึกไม่ดี Toxic Friends แบบนี้ เลิกคบได้เลยค่ะ เพราะแค่จิตสำนึกพื้นฐานยังไม่มีขนาดนี้ แล้วเรื่องอื่น ๆ ในชีวิตล่ะ จะขนาดไหน แถมไม่ได้ส่งเสริมชีวิตกันไปในทางที่ดีอีก
เพื่อนไม่ดีแบบนี้ สะบัดบ๊อบใส่ได้เลยค่ะ
8. เพื่อนที่ไม่แฟร์ ให้และรับอย่างไม่เท่าเทียม
เคยไหมคะ? เวลามีปัญหา พร้อมให้คำปรึกษาเสมอ แต่ตอนเรามีปัญหาบ้างเพื่อนไปอยู่ไหนหมดก็ไม่รู้ ปรึกษาใครไม่ได้เลย ไม่เคยซัพพอร์ตกันทางด้านอารมณ์ หรือเพื่อนบางคน
มาหาแค่ตอนตัวเองเศร้า แต่ตอนมีความสุขไม่เคยนึกถึง ไม่เคยชวนไปเที่ยวเลย หรือเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกัน แต่ไม่ช่วยเหลือ ไม่เคยช่วยออกเงิน ให้ออกเงินให้ก่อนตลอด ๆ แล้วก็ไม่คืน
เพื่อนแบบนี้เป็นเพื่อนที่เห็นแก่ตัว คบแค่หวังผลประโยชน์ และเป็นเพื่อนไม่แท้ค่ะ บางคนอาจจะเป็นคนปลอบใจคนอื่นไม่เก่ง อย่างน้อย ๆ ถ้าซัพพอร์ตทางด้านอารมณ์ไม่ได้ ซัพพอร์ต
เรื่องอื่น ๆ ก็ยังดี อย่างเช่น การช่วยหาทางแก้ปัญหา หรือการให้กำลังใจ แต่ถ้าเพื่อนไม่คิดจะช่วยเลย แล้วทนคบต่อไปไม่ไหว ก็ตัดความสัมพันธ์ชับ ๆ ไปเลย อย่าได้แคร์!
9. วิจารณ์คนอื่นเสีย ๆ หาย ๆ พูดเรื่องไร้สาระ ใส่ไฟกับคนอื่น
แต่งตัวอะไรอะ ไม่เห็นจะสวยเลย, ใส่คอนแทคเลนส์นี้แล้วเหมือนต้อเลย ไปหาห ม อไหม, แก้มแดงไป ไม่ไหวนะ เหมือนตูดลิงเลย คำพูดทำร้ า ยจิตใจแบบนี้ เลิกได้เลิกนะคะ เพื่อนที่
ชอบวิจารณ์คนอื่นตลอดเวลาแบบไม่นึกถึงจิตใจคนอื่น เป็นเพื่อนกันแท้ ๆ แต่แซะกันแรงเหมือนเก ลี ย ดกันมาแต่ชาติปางก่อน แถมชอบเอาเพื่อนอีกคน ไปใส่ไฟกับเพื่อนอีกคน
ปั่นให้เพื่อนแตกคอกัน พอเราเตือนว่าทำแบบนี้ไม่ดี ก็ไม่ยอมรับฟังอีก แถมไม่พอใจที่เราบอกเพื่อนตรง ๆ ด้วย แบบนี้เลิกคบได้เลย เพราะคบไปก็มีแต่คำวิจารณ์ เสีย ๆ หาย ๆ พาให้
เรารู้สึกแ ย่ ไม่ใช่คำวิจารณ์ที่ทำให้เราอย ากปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น และตัวเพื่อนเองก็ไม่คิดจะปรับปรุงตัว
10. เพื่อนที่ทำให้รู้สึกว่า ทำไมถึงยังคบกันอยู่ได้จนทุกวันนี้
เวลาไปไหนมาไหนด้วย ไม่รู้สึกแฮปปี้ หรือพย าย ามหลบหน้าเพื่อนคนนี้อยู่ตลอด ๆ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้รู้สึกว่าควรจะตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนคนนั้นได้แล้วนะคะ
หรือการที่ต้องอยู่เพื่อคอยรองรับอารมณ์แ ย่ ๆ ของเพื่อน รู้สึกแ ย่กับตัวเองเวลาอยู่กับเพื่อนคนนั้น หรือรู้สึกโดนกดอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้รับความเท่าเทียมในความสัมพันธ์ ให้เพื่อน
ทุกอย่าง แต่ไม่เคยได้รับอะไรดี ๆ กลับมา มีแต่ความอึดอัด รู้สึกแ ย่ และความ Toxic เต็มไปหมด เพื่อนไม่ดีขนาดนี้ ก็ควรเลิกคบเพื่อน และหาเพื่อนใหม่ค่ะ พาตัวเองไปอยู่
ในกลุ่มเพื่อนดี ๆ แล้วชีวิตจะดีขึ้น
ขอบคุณที่มา : w o n g n a i
