
ไม่ว่าใครก็ย่อมมีความฝันด้วยกันทั้งนั้น หลายๆ สิ่งก็อย ากทำหลายที่ที่ต้องการจะไปและหนึ่งในนั้น คือการมีเงินออม การมีเงินเก็บ ให้มันมากพอที่จะสามารถนำไป
ใช้จ่ายกับสิ่งที่ตัวเองต้องการได้แต่ว่านะ ในยุคปัจจุบันนี้ สิ่งที่หลายคนต้องประสบพบเจอ คือการมีเงินไม่พอใช้ไม่เพียงต่อความต้องการจนอาจเกิดจากการใช้เงิน
มากเกินตัวและที่สำคัญเลย ค่าครองชีพสูงเกินไป ค้าขายไม่ดี งานต่างๆ ก็เริ่มน้อยลง ฯลฯบางคนทำงานมานานมาก แต่เงินเก็บก็ไม่มีนะ และสิ่งเหล่านี้แหละ มันอาจ
เป็นสัญญาณที่สื่อได้ว่าการวางแผนด้านการเงินของเรามันเริ่มมีปัญหาแล้วนะฉะนั้น วันนี้เรามีตัวอย่าง ของผู้ที่เก็บเงินดีเด่นมาฝาก มนุษย์เงินเดือนที่ได้อ่ า นนั้นคิดว่า
ต้องมีกำลังใจในการเก็บเงินบ้างแหละและเรามาดูกันว่า จะเป็นยังไงในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาหญิงสาวคนนึง เขาได้แบ่ งปั นวิธีเก็บเงินอย่างละเอียดและเธอเน้น
การเก็บแบบเรื่อยๆไม่ได้ตั้งจุดหมายไว้สูงอะไรนักหรอกเพราะเธอทำงานเป็นพนักงานเซเว่น เท่านั้น และเงินเดือนเพียง 9,300 บาทลำพังการใช้จ่ายธรรมดาๆ ทั่วไป
ในแต่ละวัน ค่าอยู่ ค่ากินก็แทบจะไม่พอจ่ายแต่เธอทำได้นะ การเก็บเงินของเธอนั้นคือเธอวางแผนตั้งแต่เงินเดือนออกเลยกดออกจากธนาคารมาให้หมดทีนี้ก็หัก
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่จำเป็นของเดือนออกไปนั่นเพราะเราจะได้ไม่ต้อง “เป็นหนี้”และส่วนค่ากิน ก็ต้องมีการวางแผนด้วย นึกภาพให้ออกว่าวันนึงๆ เรามีความจำเป็น
ต้องใช้เงินไปกับอะไร เท่าไหร่จึงทำการแยกเอาไว้เป็นถุงๆ จนครบเดือนเพราะป้องกันไม่ให้ใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นเพราะไม่งั้นมันจะเก็บเงินไม่ได้ ถ้าเป็นเหรียญยิ่งดี
เพราะมันจะทำให้รู้สึกขิ้เกียจหยิบมาใช้จ่ายข้อดีคือมีเงินเหลือมากขึ้น ต่อไปเธอจะนำเงินที่เหลือในแต่ละวันมาเป็นกองกลางสำหรับใช้จ่ายอะไรก็ได้และในสุดท้าย
เธอได้เลือกการออมเงินโดยการนำเงินที่เหลือ จากการหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นไปล งทุ นกับสลากออมทรัพย์ของ ธกส.เธอขยันด้วย ทั้งยังรับเสื้อผ้ามือ 2 มาขาย
หารายได้เสริมให้ตัวเองไปด้วยง่ายๆ เลยforlifethคือเธอ จะแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน ในทุกๆ เดือน
ส่วนที่ 1 คือ ค่ากินค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน หากเหลือก็จะเข้ากองกลาง เพื่อซื้ออะไรก็ได้
ส่วนที่ 2 คือ ค่าใช้จ่าย ที่จำเป็นในทุกๆ เดือน
ส่วนที่ 3 คือ เงินออมเพื่อการล งทุ นต่อยอดให้งอกเงย เพิ่มมากขึ้น
แนวคิดที่ว่า ออมก่อนแล้วใช้ทีหลัง เป็นแนวคิดที่น่าสนใจ และใช้ได้ไม่เคยล้าสมัย
ขอบคุณที่มา : f o r l i f e t h . c o m