1. เป็นคนต า ยด้าน ต่อความต้องการของคุณ
คนหลงตัวเองมักจะมีความดูดีและสามารถโน้มน้าวใจคนอื่นได้ง่าย เขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านการจีบหญิง, เป็นผู้ชายโรแมนติค, ใครเห็นก็ประทับใจ, และมีเสน่ห์ยั่ วยว นคนอื่นได้ดี สิ่งเหล่านี้นี่เองที่ทำให้เขาลำพองใจเสมอว่าเขาเหนือกว่าคนที่มาตกหลุมพราง เขาใช้สิทธิของความดูดีนี้ทำอะไรก็ได้ และคิดว่าคนอื่น
คือพวกกระจอก อ่อนหัด ลูกไม้ที่จะสู้กับเขาได้ช่างไม่มีชั้นเชิงน่าสนใจพอเอาเสียเลย ลึก ๆ แล้วเขาเป็นพวกขาดคนรับฟังเขานั่นแหละ เขาถึงต้องพย าย ามโชว์พาวให้คนอื่นเห็นความสำคัญเข้าไว้ ถ้าคุณจะจัดการให้เขาอยู่หมัด คุณก็เพียงแค่ปรับตัวเป็นผู้ฟังที่ดีสำหรับเขา เมื่อเขารู้สึกได้ถึงความเอาใจใส่และ
ความห่วงใยจากคนอื่นจริง ๆ เขาจะรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนอื่น หันมาแคร์คนอื่นมากขึ้น ลดพฤติกรรมเฉยชาลงเอง
2. เจ้าชู้ไม่เลือกหน้า
จากข้อ 1 ด้วยความที่เขามีลูกเล่นแพรวพราวอยู่เสมอ จึงไม่แปลกนักที่จะเสริมความแพรวพราวให้มีตัวตนมากขึ้นด้วยการหว่านเสน่ห์ไปทั่ว ยิ่งมีคนรักคนชอบมาก ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญมาก รู้สึกว่าตัวเองช่างหล่อ มีเสน่ห์ เป็นที่ต้องการของใครหลายคนเสียจริง ๆ ! ภายนอกดูเหมือนเป็นคนสนุก ร่าเริง
แต่ภายในเขาเป็นคนว้าเหว่ ขาดความมั่นใจ ขาดใครสักคนเป็นหลักยึด ถ้าคุณเป็นแฟนกับคนเจ้าชู้ คุณต้องสร้างค่าให้ตัวเองว่าคุณไม่ใช่คนที่จะมาง่ายและไปง่ายเหมือนกับคนที่เขาจีบไปทั่ว สิ่งที่จะทำให้เขารักคุณหัวปักหัวปำมากขึ้นคือการเอาใจใส่ให้เขารู้สึกถึงความอบอุ่นและอิ่มพอที่ จะไม่มองหาใครอีก
มองจุดอ่อนของเขาให้ออก แล้วสร้างเป็นจุดแข็งของคุณเข้าไว้
3. ขี้โม้โอ้อวดถึงความเป็นคนโรแมนติคในอดีต
ต้องคอยระวังอยู่เสมอหากเขาเล่าซ้ำซากเกี่ยวกับวีรกรรมพิชิตใจคุณอยู่เรื่อยต่อหน้าใครก็ตาม โอกาสใดก็ตาม คุยไม่กี่ครั้งมันก็เพียงแค่เรื่องขำ ๆ แต่การพูดซ้ำราวกับว่าไม่เคยพูดมาก่อนมันช่างดูน่าอายและพลอยทำให้คุณรู้สึกขายหน้าไปด้วย แน่นอนหากเขาเลยเถิดไปถึงเรื่องลับเฉพาะอย่างอื่น บอกเป็นนัย
เตือนให้เขารู้เสมอว่าคุณไม่รู้สึกน้อยใจอะไรเลยถ้าคุณจะไม่อวดใคร คุณพอใจในสิ่งที่คุณเป็นอยู่แล้ว ไม่จำเป็นสักนิดที่จะให้ใครต่อใครรู้เรื่องราวความเป็นมาระหว่างเขาและคุณ
4. เปรียบคุณเป็นเหมือนโล่รางวัลน่าโอ้อวด
คนหลงตัวเองมักสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองดูดีน่าประทับใจในสายตาคนอื่นเสมอ โดยเฉพาะในสังคมของการประชันขันแข่งความมีหน้ามีตากัน ถอยตัวมาทำความเข้าใจสักพัก เพิ่มความมั่นใจให้เขาว่าตัวเขาก็มีดีเป็นที่น่ามองได้แม้เขาจะออกสู่สาธารณะแบบฉายเดี่ยว บอกกับเขาด้วยว่าคุณภูมิใจมากแค่ไหน
ที่ได้เป็นกำลังใจในเบื้องหลัง มากกว่าเป็นเครื่องประดับที่อยู่เบื้องหน้า
5. เปรียบคุณเป็นเหมือนตัวสะท้อนความดีของเขา (เอาดีเข้าตัว เข้าชั่ วเข้าคนอื่น)
แทบไม่ต่างอะไรจากข้อ 4 เพียงแต่ว่าในกรณีนี้เขาอาจจะมีประสบการณ์ที่เ ล วร้ า ยมาก่อน (เช่น โดนทรยศหักหลัง) จนปัจจุบันเป็นพวกขาดความมั่นใจ ไม่เชื่อใจว่าคนอื่นจะเข้าหาด้วยไมตรีจริง ไม่มั่นใจว่าคนใกล้ตัวจะรักจริง มีแต่ตัวเองนี่แหละที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด เพราะตัวเราเองย่อมไม่โ กห กตัวเราเอง
ถ้าคุณรู้สึกว่าแฟนของคุณเป็นพวกคิดว่าตัวเองดีเลิศ ไม่ยอมรับฟังข้อบกพร่อง อ่อนไหวง่ายกับคำวิจารณ์ของคนอื่น ในขณะเดียวกันก็พลั้งปากตำหนิคนอื่นได้ง่ายดาย (ด้วยความที่ว่าตัวเองดีที่สุดนั่นเอง) จงสร้างความอบอุ่นใจและความมั่นใจให้เขาว่า ตัวเขาเองมีคุณความดีอยู่ในตัว คุณนี่แหละจะเป็นคนที่
อ่อนโยนกับเขา รับฟังเขา เมื่อคุณโ อ นอ่อนต่อเขา เขาก็จะอ่อนโยนลง ไม่คิดมากเกี่ยวกับคนอื่น ในขณะเดียวกันก็รู้สึกแคร์ความรู้สึกและเห็นค่าของคนอื่นมากขึ้นพอ ๆ กับเห็นค่าของตัวเองมากขึ้นด้วย
6. เปรียบคุณเป็นเครื่องบำบัดความใคร่
ถ้าคนหลงตัวเองเป็นพวกที่ทำตามใจตัวเองเป็นหลัก S e x ก็คือตัวชี้วัดเช่นกัน คนประเภทนี้มักมี s e x เพื่อบำบัดความต้องการทางเพศให้รู้สึกดีเป็นที่พึงพอใจเสมอ เขาชอบที่จะระบายความใคร่ในขณะเดียวกันก็ชอบให้คนอื่นมาพะเน้าพะนอคลอเคลียด้วย ถ้าปัญหานี้เกิดขึ้นกับแฟนของคุณ คุณต้องให้เขารู้สึกว่า
เขารับความรักได้เต็มที่มากพอที่จะไม่เห็นคุณเป็นเครื่องมือทางเพศของเขา ( เพราะบางทีแล้วการมี s e x ก็ไม่ได้มาจากความรักเสมอไป) ความรักที่มากพออาจทำให้เขายอมโ อ นอ่อนผ่ อ นปรนต่อคุณได้บ้ าง
7. มีทางเลือกอื่นเป็นตัวสำรองเยอะแยะ
เพื่อรู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นคงปลอดภัยมาก คนหลงตัวเองจึงมักจะโชว์พาวด้วยการมีอะไรมาก ๆ เข้าไว้ เช่น รถหลายคัน สาวหลายคน ที่นอกจากทำให้รู้สึกว่ารวย ดูดี ยังรู้สึกได้ว่ามีความเหนือกว่าใคร ถึงจะขาดไปบ้ างก็ยังมีที่เหลืออยู่อีกเพียบและหาใหม่ได้อีกเพียบเช่นกัน สิ่งเดียวที่พอจะหยุดได้ก็คือ
คุณต้องทำให้เขาเห็นค่าในความเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ว่ามันมีค่าพอที่จะไม่ให้หลุดมือแค่ไหน และบางทีแล้วต้องให้บทเรียนเขาด้วยว่าการทำหลุดมือสักหนนั้น มันเอากลับคืนมาได้ย ากและหาทดแทนได้ย ากเช่นกัน
8. ฝืนใจทำข้อตกลงที่ค่อนข้างซีเรียส
คนหลงตัวเองมักจะมีทิฐิสูง คิดว่าเหนือกว่าคนอื่นเกินกว่าจะก้มหัวให้ใครได้โดยง่าย สมมติว่าคุณกับแฟนต้องไปออกเดทกันในที่แห่งหนึ่ง เพื่อความราบรื่นคุณจึงต้องตั้งกฎและเงื่อนไขอีกมากมาย หากว่าแฟนคุณรู้สึกฝืนใจ มีท่าทีไม่สบายใจ รีบตกลงกันดี ๆ ให้เขามีส่วนร่วมกับกฎได้ว่าข้อไหนเขาทำได้หรือไม่ได้
รู้สึกอย่างไรกับกฎที่ตั้งขึ้น อย่าบังคับฝืนใจเหมือนกับเขาเป็นเด็ก ๆ ต้องทำให้เขารู้สึกว่าเขาก็เข้าใกล้ถึงเหตุผลได้เหมือนกับคุณที่อธิบายอะไรได้มากมายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม คนเราทุกคนต่างมีข้อเสียกันทั้งนั้น หากคบกันแล้วรู้สึกได้ว่ามีอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจ และอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระยะย าว ให้รีบปรับ
ความเข้าใจกันโดยด่วน และที่สำคัญที่สุดกว่าการพูดคุยกัน คืออย่าลืมรับฟังกันให้มาก หากต่างฝ่ายต่างแ ย่งกันพูด ไม่ผลัดกันพูดผลัดกันฟัง ไม่มีทางที่เข้าใจกัน และไม่มีทางที่ความสัมพันธ์จะราบรื่นแน่นอน
ขอบคุณที่มา : j e e b . m e
