
หลายๆ ครั้ง จากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ต้องมีบ้างสักหนึ่งครั้งที่เราต้องได้ร่วมงาน หรือมีเหตุการณ์ที่เราต้องดีลและรับมือกับคนที่เราไม่ชอบหน้าไม่ถูกชะตากันอยู่บ้าง แต่เพื่อให้ชิ้นงาน
หรือสถานการณ์ที่ราบรื่นต่อไปเราก็ควรแสดงความเป็นมืออาชีพ สักหน่อย ถือว่าเป็นการทดสอบสภาพอารมณ์และจิตใจของเราให้แข็งแกร่งรวมทั้งวัดอีคิวให้รู้กันไปเลยว่าใครจะฉลาด
ทางอารมณ์กว่ากัน แน่นอนว่าคนปรี๊ดแตกคนนั้นต้องไม่ใช่เรา! เอาละ ถ้าเจอเหตุการณ์เช่นนี้เราควรเตรียมความพร้อมที่จะรับมือยังไง เรามีทริคง่ายๆ มาบอกให้… จะดีลยังไงมาดู!
1. ทำใจให้เย็น
ขั้นตอนแรกเมื่อเผชิญหน้า เราก็ต้องรู้จักจัดการอารมณ์และความรู้สึกของเราให้ดีและทำให้ได้ก่อน คือรู้จักปรับตัวปรับอารมณ์ ให้เย็นลง หายใจเข้าลึกๆ นับ1-10 หรือไปหาที่สงบๆเพื่อรับมือ
กับสิ่งที่เราไม่ชอบจะช่วยให้เราเย็นลงได้เหมือนกันเมื่อพร้อมที่จะเผชิญหรือ ต้องทำงานร่วมกันเมื่อไหร่ เราจะได้แน่ใจว่าไม่ระเบิดอารมณ์หรือเกิดการปะทะกันเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเป็น
อย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ หากเราจัดการกับอารมณ์ของเราได้ เรียกสติกลับมาอาจจะทำให้เราเข้าใจอะไรได้มากขึ้น
2. อย่าแสดงออกว่าไม่ชอบ
การแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง ว่าเราไม่ชอบเขา เขาไม่ชอบเรา ไม่ใช่ปฏิกิริย า ที่ดีของการผูกมิตรแต่เป็นการสร้าง ศั ต รู อย่างจงใจ ยิ่งเขาไม่ชอบหรือเราไม่ชอบเขามากเท่าไหร่แสดงออก
มากไปก็จะกลายเป็นจุดอ่อนที่อ่ านง่ายได้โดยทันทีอาจจะย ากไปสักนิดถ้าจะบอกให้แสดง และปฏิบัติต่อเขาด้วยสิ่งตรงกันข้ามกับความรู้สึก อย่าให้รู้ว่าลึกๆเรามีอะไรไม่ชอบต่อกัน แสดง
ความดีทั้งต่อหน้าและรับหลังด้วยความจริงใจใครไม่เห็นก็ไม่เป็นไร แค่เราสบายใจไม่สร้างปัญหาเพิ่มควบคุมสถานการณ์ก็ถือว่าฉลาดทางอารมณ์พอ
3. ลองปรับความเข้าใจ
หากเริ่มพิจารณาดูแล้วว่า ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้เล วร้ ายหรือมีพิ ษ สงอะไร อาจจะเป็นแค่ความเข้าใจผิดหรืออคติที่เรามีทำให้เรารู้สึกกับเขาแบบที่ต่างจากคนอื่น แต่แท้จริงแล้วเนื้ อ ในของเขา
อาจจะไม่ใช่ลองเปิดอกเปิดใจคุยกับเขาสบายๆ หรือยกปัญหาคาใจมาแลกเปลี่ยนกันดู จะได้ทราบถึงสาเหตุและ ปรับความเข้าใจกันจะเป็นเรื่องดี แม้เริ่มต้นที่ผ่านมาจะไม่ดีนักแต่ถ้าได้ลอง
พูดคุยกันมากขึ้นก็อาจทำให้เข้าใจและได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
4. มองมาที่ตัวเอง
เมื่อเหตุผลและความดี ใช้ไม่ได้กับคนบางประเภทเราก็ไม่ควรจะเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาหนักใจ มองแต่ความสุขและคุณค่าชีวิตตัวเองเข้าไว้ อย่าเอาความบั่ น ทอน ไม่สบายใจมาแบกเพียง
เพราะแค่คนที่ใช้ชีวิตร่วมกันไม่กี่ชั่ วโมงหากเขาไม่ใช่คนที่สำคัญหรือมีบทบาทอิทธิพลอะไร ก็อย่าให้ใครเข้ามาทำล าย ความสุขของเราไป ถ้ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็ให้อภัยและทำใจให้สบายๆ
อย่าได้ไปต่อความย า วสาวความยืด
5. เว้นช่องว่างกันสักหน่อย
ถ้ารู้ว่าต้องมีเหตุปะทะ หรืออึดอัดใจที่จะใช้อากาศหายใจร่วมด้วย ก็เว้นระยะมาสักหน่อยแบบเนียนๆ ค่อยๆทำตัวเป็นสายลม หรือปล่อยให้เขาเป็นธาตุอากาศไป มีหน้าที่ต่างก็ทำไปก็เท่านั้น
หากมีเรื่องให้ต้องมาปรึกษาหารือหรือทำงานร่วมกัน ก็ปฏิบัติไปตามหน้าที่อย่างไม่มีอคติและทำให้ชิ้นงานนั้นสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่ก็ขอมีช่องว่างเล็กๆ ให้เราได้หลบไปเคลียร์อารมณ์ เอาเป็นว่า
ไม่ขอสนิทสนมแต่ยังคงร่วมงานกันได้
6. ต่างคนต่างอยู่
ถ้าหน้าที่รับผิดชอบไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือวิถีชีวิตประจำวันก็ไม่ได้โคจรมาเจอกันด้วยซ้ำหากไม่จำเป็นปล่อยๆ เรื่องไร้ส าระ นั้นออกไปจาก ส มอง ซะ และทำตามหน้าที่ที่เรามีให้ดีที่สุดเพราะ
ไม่ว่าจะอยู่ในจุดไหน ของชีวิตเขาก็ไม่มีความสำคัญอะไรให้เราต้องใส่ใจ ท่องเอาไว้ดีกว่าว่าต่างคนต่างอยู่ มุมใครมุมมันจะได้ไม่ข้ามเขตแดนความรู้สึกกัน และจะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่ายแบบนี้
จะดีกว่าสติค่ะ! เมื่อเกิดเหตุการณ์ แบบนี้ ‘สติ’ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ควรจะมี เราไม่ควรจะแลกสิ่งดีๆในตัวเราที่สั่งสมมา ไม่ว่าจะหน้าที่การงาน ชื่อเสียง หรือชีวิตดีๆที่เราเคยมีมา เพียงเพราะเหตุผล
ของการไม่ชอบหน้าและการไม่ชอบใจ ด้วยการทะเลาะเบาะแว้ง ให้เราดูไม่งามหมดความน่ารักและความฉลาดสดใสในตัวไป งานนี้ใครสงบได้แล้วพร้อมทำให้สถานการณ์ มันเดินหน้าต่อไปได้
อย่างเรียบร้อยถือว่าชนะ! ถ้าไม่อย า กแพ้ก็อย่าเเสดงความไม่ฉลาดทางอารมณ์ออกมาแบบโป๊ะๆ หละสาวๆ
ขอบคุณที่มา : t o d a y.l i n e.m e