Home ข้อคิด อยากให้ลูกเก่ง ได้ดีในอนาคต พ่อแม่ต้องขี้เกียจ 3 อย่างนี้

อยากให้ลูกเก่ง ได้ดีในอนาคต พ่อแม่ต้องขี้เกียจ 3 อย่างนี้

7 second read
0
0

พ่อแม่ส่วนใหญ่เคยผ่านความลำบากมาก่อน จึงไม่อย ากให้ลูกต้องพบเจอกับความลำบากเหมือนตัวเองเจอมา จึงพย าย ามเลี้ยงลูกให้ได้รับความสบายมากที่สุด

อย ากได้อะไรก็หาให้หมด จนทำให้ลูกรู้สึกว่าไม่ต้องพย าย ามอะไรก็ได้ทุกอย่างที่ต้องการมาแล้วซึ่งการเลี้ยงลูกแบบนี้ จะส่งผลในระยะย าวและกลายเป็นปัญหา

ให้ลูกเองเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะไม่สามารถดูแลตัวเองได้ กลายเป็น “โ ร ค ไม่รู้จักความลำบาก” ดังนั้นหากพ่อแม่รักลูกจริงๆ ต้องขี้เกียจใน 3 เรื่องนี้

1. ขี้เกียจขยับมือ สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตนเอง

พ่อแม่ต้องขี้เกียจตามเก็บกวาดให้ลูกทุกอย่าง ควรปล่อยให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองบ้ าง บางสิ่งที่ลูกสามารถทำเองได้ ไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้าไปช่วยทุกครั้งไป

เช่น ห้องนอนลูกที่ดูไม่เป็นระเบียบ แค่เตือนให้เขารู้ตัวว่าต้องทำ แต่ไม่ต้องไปทำให้ลูกเราควรจะเน้นไปที่การสอนให้ลูกดูแลความสะอาดบริเวณพื้นที่ส่วนรวม

ของบ้ าน เช่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอ าห า ร และเมื่อลูกเห็นว่าพื้นที่อื่นในบ้ านสะอาด เขาจะรู้สึกว่า เขาต้องทำความสะอาดห้องนอนตัวเองให้สะอาดเหมือนกัน

ผลปรากฎว่า : เมื่อพ่อแม่ขี้เกียจช่วยเหลือลูกในบางเรื่อง ส่งผลให้ลูกฝึกทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเองมากขึ้น และเป็นการฝึกนิสัยพึ่งพาตัวเอง มีความรับผิดชอบต่อ

สิ่งรอบตัว และจะทำให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากขึ้น เมื่อเขาโตไปจะกลายเป็นคนที่สามารถรับผิดชอบได้ดี รู้จักหน้าที่ของตัวเอง

2. ขี้เกียจช่วยลูกทำการบ้ าน

คุณแม่ท่านหนึ่งได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองว่า.. เธอไม่เคยสอนหรือช่วยทำการบ้ านให้ลูกของเธอเลย แม่จะบอกลูกแค่ว่า ให้ทำการบ้ านเวลาไหน ควรทำเวลาไหน

แล้วก็ไล่ให้ลูกไปทำ พอทำเสร็จก็ค่อยบอกแม่ และเธอก็จะไม่ตรวจสอบว่าลูกทำถูกต้องหรือไม่ เพราะการตรวจสอบนั้นมันเป็นหน้าที่ของลูก หรือให้รู้ว่าถูกผิดจาก

ที่โรงเรียน คุณแม่แค่เซ็นชื่อให้เท่านั้นเองช่วงแรกๆลูกของเธอก็แสดงอาการไม่พอใจ และพูดว่า “ทำไมแม่ถึงขี้เกียจแบบนี้… แม่คนอื่นเขาช่วยตรวจการบ้ าน

ให้ลูกกันทั้งนั้น “เธอจึงตอบลูกไปว่า “ที่แม่ไม่ตรวจการบ้ านลูก ไม่ใช่เพราะแม่ขี้เกียจหรอกนะ แต่ลูกลองคิดดูสิ !! ถ้าแม่ตรวจให้ แล้วลูกจะรู้ได้ไงว่าตัวเองทำผิดตรงไหน

แล้วตอนสอบเวลาลูกทำผิด จะรู้ไหมว่าผิดตรงไหน ลูกต้องฝึกตรวจความถูกต้องด้วยตัวเอง เรียนรู้ด้วยตัวเอง เพราะในห้องสอบไม่มีใครช่วยลูกตรวจได้ “จำไว้นะลูกว่า…

ตอนลูกอยู่ในโรงเรียน ลูกจะได้รับบทเรียนก่อน แล้วถึงได้ทำข้อสอบ แต่สำหรับในโลกความจริง…ลูกจะต้องเจอบททดสอบก่อน ถึงจะได้บทเรียน!!การที่เธอขี้เกียจ

สอนการบ้ าน หรือช่วยลูกทำการบ้ าน ทำให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มากที่สุด ลูกจะได้รู้จักพึ่งพาตัวเอง ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเสมอ หากคิดไม่ออก

หรือทำไม่ได้ ค่อยมาขอคำแนะนำจากแม่ได้

ผลปรากฎว่า : สำหรับพ่อแม่ที่มีนิสัยขี้เกียจตีกรอบความคิดให้ลูก แต่ปล่อยให้ลูกคิดเองอย่างอิสระ หรือทำทุกอย่างด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้อย่างอิสระ

แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังให้ความสนใจลูกและคอยดูอยู่ห่างๆ จะทำให้ลูสามารถเผชิญกับปัญหาได้ดี เขาจะมีภูมิคุ้มกัน มีปีกที่แข็งแรงพอ และอยู่ได้ด้วยตัวเอง

แม้วันหนึ่งคุณจะไม่ได้อยู่ปกป้องเขาแล้วก็ตาม

3. ขี้เกียจบ่น ให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง

ในหลายครอบครัว คนเป็นพ่อเป็นแม่ มักจะตั้งความหวังไปที่ลูกมากจนเกินไป จนทำให้ลูกอึดอัดและกดดัน กลายเป็นไม่สนใจและไม่อย ากฟังสิ่งที่เราจะพูด

แต่สำหรับครอบครัวนี้ เขากลับใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ในการชวนลูกมาเล่นเกม และไม่ต้องทำการบ้ านโดยคุณแม่จะถามว่า ” ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง…?

“ลูกตอบว่า… ” ขอเล่นอีก 30 นาที “แม่ตอบกลับไปว่า… ” โอเค ต้อง รั ก ษ า คำพูดนะ “เมื่อถึงเวลา 30 นาที แม่เดินกลับมาดู และยังเห็นลูกเล่นเกมอยู่ คุณแม่ก็

รู้สึกไม่พอใจ แต่ยังสงบอารมณ์ได้ และพูดกับลูกอย่างใจเย็นว่า ” ปกติลูกเป็นคน รั ก ษ าคำพูดไม่ใช่หรอ…? “เมื่อลูกได้ฟังคำพูดของแม่ ก็เริ่มรู้สึดผิดต่อสิ่งที่ทำ

และเดินไปปิดสวิทช์ และ รีบไปทำการบ้ านทันที…!!นี่เป็นสาเหตุมาจาก ” การเป็นคนน่าเชื่อถือ “ ของคุณแม่ท่านนี้ เพราะเวลาคุณแม่รับปากอะไรกับลูกไว้ เธอก็

จะทำตามนั้นได้เป๊ะๆ ไม่เคยผิดคำพูดกับลูก เช่น จะพาลูกไปเที่ยว จะซื้อของเล่นให้ เธอก็ทำตามคำพูดได้ทุกครั้งมันแสดงให้เห็นว่า คุณแม่ท่านนี้เป็นคนที่ให้

ความสำคัญกับการ รั ก ษ า คำพูดเป็นอย่างมาก เมื่อรับปากอะไรไว้ ก็ต้องทำให้ได้ และสอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบต่อคำพูดของตัวเอง แล้วคำพูดก็เลยดูศักดิ์สิทธิ์

ผลปรากฎว่า : พ่อแม่ที่ไม่บ่นเรื่อนเปื่อย แต่ใช้วิธีปลูกฝังจิตสำนึกให้ลูกแทน ใช้เหตุผลในการคุยกับลูกมากกว่าอารมณ์ สอนให้ลูกรู้จัก รั ก ษ า คำพูดของตัวเอง

และทำตามที่พูดไว้อย่างเคร่งครัด ทำให้ลูกให้ความสำคัญกับคำพูดมาก โดยที่เราไม่ต้องไปบ่นให้เขามากมาย เขาสามารถสำนึกและคิดได้เองถ้าอย ากให้ลูก

ช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติถ้าอย ากให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น ให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็นถ้าอย ากให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้อง

รู้จัก รั ก ษ า คำพูดถ้าอย ากให้ลูกพูดเพราะ และ มีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวันบางคนมักจะรักลูกแบบผิดๆ ไม่อย ากให้ลูกต้องลำบาก จึงไม่ยอมให้ลูกได้

ลองทำอะไรด้วยตัวเอง จนลูกกลายเป็นคนที่ทำอะไรเองไม่เป็น ลูกมีหน้าที่เรียนก็เรียนอย่างเดียว แต่ในชีวิตจริง ความรู้ในตำราอย่างเดียวก็ใช้ไม่ได้ ต้องอาศัย

ประสบการณ์ชีวิตในการเอาตัวรอดด้วยไม่ว่าคุณจะรวยแค่ไหน มีเงินเหลือมากพอที่จะทำให้ลูกสุขสบายไปทั้งชีวิต แต่ถ้าไม่สอนให้เขาเติบโตได้เองอย่างเข็มแข็ง

เขาก็ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น..จงสอนให้เขารู้จักความลำบาก และเรียนรู้การแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อตนเอง

และ ต่อสังคมให้ได้

ขอบคุณที่มา : b i t c o r e t e c h

Load More Related Articles
Load More By Friend
Load More In ข้อคิด

Check Also

10 ข้อคิด ในการใช้ชีวิตแบบคุ้มค่า เปลี่ยนตัวเองใหม่ใน 1 อาทิตย์

ในปัจจุบันมนุษย์ที่ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวอย่ างพวกเรา จำเป็นจะต้องปรับตัวปรั…