
1.ชอบหาเงินมากกว่าชอบใช้เงิน
ถ้าชอบใช้เงินต้องไปเกิดเป็นลูกเถ้าแก่ เพราะตัวเถ้าแก่ต้องมีนิสัยชอบหา รู้ค่ าของเงินผมชอบคบคนรวย
ถ้าคบผิวเผิน คุณจะเห็นแค่เปลือก คือ เห็นว่าเขาใช้เงินยังไง : ถ้าเราใช้เงินตามคนรวย เราจะ ซ ว ย
แต่ผมชอบคบถึงแก่น คือ คบจนรู้ว่าเขาทำงานหาเงินกันยังไง : อันนี้ถ้าเราปรับให้หาเงินตามแบบเขา เราจะรวย
2.มีนิสัยให้ก่อนค่อยรับ
ถ้าเป็นลูกน้อง ต้องการรับก่อนทำงาน เขามักถามว่า ฉันจะได้เงินเดือนเท่าไหร่
ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แสดงฝีมือทำงานเลยส่วนเถ้าแก่จะบอกว่า ชิมก่อน ถ้าไม่ดีไม่ต้องจ่ายเงิน
3.ชอบทำอะไรแตกต่าง
ถ้าชอบทำเหมือนคนอื่น อย่ าเปิดธุรกิจเลย มันเหนื่อยเปล่า เถ้าแก่ต้องกล้าทำในสิ่งที่
ไม่มีใครทำลูกจ้างชอบการแข่งขัน แต่เถ้าแก่ชอบทำสิ่งที่ไม่ต้องแข่งกับใคร
4.รับผิดชอบเงินตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย
เถ้าแก่ทุกคนต้องบริหารรายรับรายจ่ายได้ดี คนสมัยนี้เป็นเถ้าแก่ย าก
เพราะใช้ชีวิตติดหนี้ตั้งแต่เริ่มทำงาน…ชีวิตหนี้
5.กล้ามองการณ์ไกล
คนส่วนใหญ่ชอบมองใกล้เพราะมันดูปลอดภัย ลูกจ้างรายวัน มองผลตอบแทนสิ้นวันได้เงิน 300 บาท
ลูกจ้างประจำมองผลตอบแทนสิ้นเดือน ได้เงินหลักหมื่นส่วนเถ้าแก่มองผลตอบแทนธุรกิจ
มองเป็นปี เพื่อเงินหลักแสน หลักล้าน – มองไกล รอได้ เพื่อเงินก้อนใหญ่
6.พูดได้ขายของเป็น
ถ้าพูดไม่ได้และขายของไม่เป็น อย่ าริเป็นเถ้าแก่ ยกเว้นคุณจะมีหุ้นส่วนที่ทำได้การทำธุรกิจทุกอย่ าง
หนีไม่พ้นการขาย การนำเสนอ การขายฝึกได้เพราะไม่ใช่เรื่องพรสวรรค์ วิธีเริ่มฝึกนักขายที่เก่ง คือ
เริ่มศึกษาสินค้าที่จะขายให้รู้จริง รู้ลึก รู้กว้าง จากนั้นการขายจะไม่ใช่เรื่องย าก
7.รู้จักใช้เครื่องทุ่นแรง
ใช้เครื่องจักร ใช้ลูกน้อง ใช้เทคโนโลยี…ถ้าเป็นเถ้าแก่แล้วใช้แต่ตัวเองก็ไม่ต่างอะไรกับ
การเปลี่ยนที่ทำงาน คือ จากกร ร มกรในบริษัทมาเป็นกร ร มกรอิสระ (หนักกว่าเดิม)
ลองสำรวจ 7 ข้อที่กล่าวมา เพื่อดูว่าเราพร้อมจะเป็นเถ้าแก่แค่ไหน
ไม่มีเถ้าแก่คนไหน ร่ำรวยจากการ “ประหยัดรายจ่าย” แต่เค้ารวยจากการ “สร้างรายได้”
ไม่มีเถ้าแก่คนไหน ร่ำรวยจากการ “ทำงานง่าย” แต่เค้ารวยจากการ “ทำงานย าก”
ไม่มีเถ้าแก่คนไหน ร่ำรวยจากการ “ทำงานหนัก” แต่เค้ารวยจากการ “ทำงานฉลาด”
ไม่มีเถ้าแก่คนไหน ร่ำรวยจากการ “คิดเยอะ” แต่เค้ารวยจากการ “คิดเป็น”
ไม่มีเถ้าแก่คนไหน ร่ำรวยจากการ “ขายแรงงาน” แต่เค้ารวยจากการ “ขายไอเดีย”
ไม่มีเถ้าแก่คนไหน ร่ำรวยจากการ “ปฏิเสธโอกาส” แต่เค้ารวยจากการ “มองหาโอกาสทุกเวลา”
ขอบคุณที่มา : p o s t t o d a y