1. เริ่มต้นประหยัด ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
หากบริษัทที่คุณทำงานอยู่มีสัญญาณเตือนของปัญหาและมีแนวโน้มว่าปัญหานี้อาจส่งผลทำให้คุณต้องตกงานในอนาคต สิ่งแรกที่คุณควรจะทำคือการเริ่มต้น
ปร ะห ยั ดและล ดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นต่างๆ ลงเพื่อเป็นการเตรียมรับมือความเปลี่ยนแปลงในอนาคตค่ะ เพราะรายจ่ า ยที่ลดลงสามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินเก็บออม
เผื่อกรณีฉุ กเ ฉิ นหรืออาจแปรเปลี่ยนไปเป็นเงินที่คุณรวบรวมเอาไว้รับมือกับหนี้สินที่มีได้เช่นกัน ลองวางแผนลดรายจ่ า ยเหล่านี้ดูค่ะ แล้วคุณจะเห็นปริมาณเงิน
ที่ไหลเข้าสู่บัญชีเงินออมของคุณที่มากขึ้นอย่ างน่าตกใจ
2. มองหางานใหม่ๆ ที่อยู่ในความสนใจของคุณ
อีกหนึ่งการเตรียมพร้อมหากวิ ก ฤ ติ ของบริษัทดู รุ นแ ร งเกินกว่าที่จะรอดได้ และอาจทำให้คุณต้องตกงานแน่ๆ คุณอาจจำเป็นต้องเริ่มต้นในการมองหางานใหม่ๆ
ที่คุณสนใจหรืออยู่ในฟิลงานที่คุณถนัดไว้เสียแต่เนิ่นๆ ค่ะ ซึ่งปัจจุบันมีเ ว็ บไซ ต์หางานจำนวนมากที่เป็นตัวช่วยให้คุณได้งานที่ตรงตามความต้องการและตรงกับ
สายงานของคุณค่ะ ซึ่งคุณสามารถส่ง R e s u m e ทิ้งไว้ให้แก่บริษัทเหล่านี้ล่วงหน้าได้ค่ะ
3. ลงทะเบียนเรียนออนไลน์เพิ่มพูนทักษะ
การหางานใหม่อาจจำเป็นต้องใช้ทักษะพิเศษเพื่อเพิ่มโอกาส การได้งานอย่ างที่ต้องการรวมไปถึงมีโอกาสเรียกค่ าตอบแทนอย่ างที่ต้องการค่ะ ดังนั้นการลงทะเบียน
เรียนออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ เพื่อเตรียมพร้อมเพิ่มพูนทักษะที่เป็นประโยชน์และคุณยังขาดอยู่นั่นเอง นอกจากนี้คุณอาจได้ประโยชน์ในแง่ที่
สามารถพัฒนาทักษะใหม่ที่เรียนรู้มานี้ให้กลายมาเป็นอาชีพเสริม ที่ช่วยเพิ่มเติมรายได้และลู่ทางให้แก่คุณก่อนที่คุณจะตกงานค่ะ
4. มองหาช่องทางใหม่ที่คุณสนใจและอย ากทำ
แต่สำหรับใครที่รู้สึกเบื่อต่อสายงานเดิมที่ทำ หรือเบื่อต่อลักษณะงานเดิมและอย ากเริ่มต้นมองหาสิ่งใหม่ๆ การตกงานก็อาจเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณได้ตัดสินใจ
เปลี่ยนแปลงตัวเองและออกจาก c o m f o r t z o n e เพื่อไปเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ที่คุณต้องการค่ะ แต่ทั้งนี้คุณต้องแน่วแน่ต่อเส้นทางที่คุณเลือกและวางแผนจัดการ
กับเส้นทางที่คุณเลือกให้ดีค่ะ
5. วางแผนบริหารการเงิน
นอกจากการปร ะห ยั ดค่ าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น คุณควรจะต้องวางแผนเก็บเงินสำรองฉุ กเฉิ นที่จะครอบคลุมค่ าใช้จ่ายทั้งหมดของคุณในกรณีที่คุณต้องว่างงานไม่น้อย
กว่า 6 เดือนค่ะ เงินจำนวนนี้เมื่อคุณนำมาเฉลี่ยต่อเดือนแล้ว ควรจะมีจำนวนที่เทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับเงินเดือนประจำของคุณ หรืออย่ างน้อยต้องเท่ากับรายจ่าย
ในแต่ละเดือนของคุณ คุณจึงจะไม่เดือดร้อนหากคุณต้องตกงานจริง ๆ สำหรับวิธีการเก็บเงินก้อนนี้ให้อยู่ที่ง่ายที่สุดคือ คุณต้องทำเป็นลืมไปเลยว่ามีเงินก้อนนี้อยู่ค่ะ
มิฉะนั้นก็มีโอกาสที่คุณจะนำเงินก้อนนี้มาใช้เช่นเดิม
6. หารายได้เสริม
การหารายได้เสริมเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่การเตรียมความพร้อมก่อนจะตกงานเท่านั้น แต่ยังนิยมในกรณีที่คุณมีรายได้ที่ไม่เพียงพอ
ต่อค่ าใช้จ่ายอีกด้วย สำหรับอาชีพเสริมที่เป็นที่นิยมอันดับแรกๆ ย่อมหนีไม่พ้นการค้ าข า ยค่ะ โดยเฉพาะการขายสินค้าออนไลน์ การขายสินค้าตามตลาดนัด นอกจากนี้
ก็ยังรวมไปถึงการรับงานฟรีแลนซ์ และการขายอ าห า ร แต่กระนั้นก็ยังมีอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่น่าสนใจ ที่คุณสามารถพัฒนาและต่อยอดไปเป็นอาชีพหลักได้ในอนาคต
ก็คือ “การล งทุ นในธุรกิจแฟรนไชส์” ซึ่งในปัจจุบันมีหลายแ ฟ ร นไ ช ส์ที่เริ่มต้นล งทุ นด้วยเงินเพียงจำนวนไม่มากในร าค าเพียงหลักหมื่นต้นๆ แต่สามารถสร้างผล
ตอบแทนที่ดีและสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่นานเช่นแฟ ร นไ ช ส์ “ว อ ฟ เฟิ ล คู ล” ของแบรนด์เดอะว อ ฟเ ฟิ ลค่ะ ข้อดีของธุรกิจแฟ ร นไ ช ส์ก็คือคุณสามารถ
ทำเป็นอาชีพเสริมเพื่อหารายได้เพิ่มเติมได้หรือหากคุณต้องการ ที่จะพัฒนาไปเป็นอาชีพหลักก็สามารถทำได้อย่ างไม่เคอะเขินค่ะ
การตกงานอาจเป็นสิ่งที่คุณไม่คาดฝันว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้น กับคุณก็ตาม แต่ทว่าคุณสามารถวางแผน เพื่อรับมือกับเรื่องที่ไม่คาดฝันนี้ได้ค่ะ หากคุณพอจะรู้ตัวล่วงหน้า
ว่างานที่คุณทำเริ่มมีสัญญาณของปัญหา คุณสามารถเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองด้วย 6 วิธีข้างต้นนี้ เพื่อที่ว่าเมื่อถึงที่สุดแล้วคุณจะได้ไม่รู้สึก เ ค ว้ งค ว้ า ง
หรือ สิ้ นไ ร้ห นทางไปต่อค่ะ
ขอบคุณที่มา : thewafflesupply