
1.เมื่อใดที่ใครบางคนทำให้เธอเ จ็ บ ป ว ดใจ
ลองปล่อยให้มันเป็นไป ทบทวนดูสิว่า ชีวิตนี้ไม่มีใครอยู่ยงคงกระพัน คนที่มีชื่อเสียง คนที่รวยล้นฟ้า
หรือคนที่รักกันปานจะกลืนกินในอดีตวันนี้เหลือไว้แต่ชื่อ! สุดท้ายเธอก็แค่คนที่เคยมาเยือนโลกใบนี้
ต่อให้เธอแค้น เธอก็ต้องไปจากโลกนี้ ต่อให้เธออาลัยอาวรณ์ เธอก็ต้องจากโลกนี้ไปในสักวันหนึ่ง
2.เมื่อใดที่เธอถูกเอารัดเอาเปรียบ
ลองปล่อยวางดูบ้ าง พูดมากจะเสียมิตร คิดเล็กคิดน้อยจะเสียกำลังใจ เธอจงจำไว้ “เงยหน้าไม่อายฟ้า
ก้มหน้าไม่อายดิน”แค่นี้ก็เพียงพอให้เธอสุขใจวันนี้ยังกินข้าวได้ ยังนอนหลับได้ยังมีเสื้อผ้าให้สวมใส่
ยังไปเที่ยวได้ ยังมีคนอยู่รอบกาย ยัง อ่ า น หนังสืออ่ านเ ฟ ส อ่ าน ไ ลน์ ได้ ความสุขอาจหาไม่ง่าย
แต่ความเรียบง่ายทำให้ชีวิตเป็นสุข เธอเอ๋ย สุขให้เป็น
3.เมื่อใดที่เธอกลัดกลุ้ม
ลองสุดลมหายใจลึกๆ ทบทวนดูว่าชีวิตนี้มันมีแต่ลดกับลด ปฏิทินที่ฉีกไปในวันนี้กำลังบอกเธอว่า เวลาเธอ
ลดไปอีกวันหนึ่งแล้วการได้พบหน้ากันในวันนี้ หมดโอกาสได้เจอกันไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว แล้วเธอจะกลัดกลุ้ม
ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องไปทำไมไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด มีแต่ถูกใจหรือไม่ถูกใจ คนที่เธอถูกใจต่อให้เขาทำผิด
เธอก็ไม่รู้สึกโก ร ธคนที่เธอไม่ถูกใจ ต่อให้เขาทำถูก เธอก็ยังขวางตาขวางใจ เพราะฉะนั้น อย่ าไป อ า ฆ า ต
พย าบาทใครเขาเลย
4.เมื่อใดที่เธอรู้สึกไม่พอใจ
ลองไตร่ตรองดู ไม่มีใครครอบครองสิ่งใดในโลกนี้ได้ตลอดไป เธออาจไม่ได้รวยล้นฟ้าเหมือนเศรษฐีมีเงินแต่เธอ
อาจมีความสุขอันเรียบง่ายที่เศรษฐีโหยหาก็เป็นได้ และเธอยังแข็งแรงมากกว่าคนที่นอนป่ ว ยอยู่ตามโรงพย าบาล
เธอโชคดีกว่าคนอื่นอีกมากเพียงใด เธอจงจำไว้ “มองล่างเธอเหลือ มองเหนือเธอขาด”
5.เมื่อใดที่เธอโ มโ ห
ลองนั่งนิ่งๆ ทบทวนดูว่าเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตนี้มีอยู่อีกสักกี่วัน ใยเสียเวลาไปเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ขอบคุณที่มา : นุสนธิ์บุคส์