
1. เลือกอาชีพที่ “ใช่”
“เจ้าของเงินล้าน” อาจมีอาชีพหลากหลาย แต่สำคัญมันต้องเป็น อาชีพที่ “ใช่” สำหรับเขาเท่านั้น จริงอยู่ที่ผู้ประกอบการมีโอกาสเป็น “เจ้าของเงินล้าน” เร็วกว่า
คนทั่วไป 4 เท่า แต่กระนั้นก็ไม่พบว่ามีธุรกิจประเภทหนึ่งประเภทใดที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าประเภทอื่นๆสรุปว่า ความร่ำรวยมาจากลักษณะนิสัย ของพวกเขา
มากกว่าประเภทธุรกิจ ที่เลือกทำ ซึ่งข้อนี้ ต่างจากที่พวกเราชอบทำกัน คือเลือกอาชีพที่นิยม มากกว่าอาชีพที่ใช่อย่างเช่น ช่วงร้านกาแฟบูม ก็แห่กัน เปิดร้านกาแฟ
จนเต็มไปหมด ในที่สุดหลายๆ ร้านก็ต้องพับกระเป๋า กลับบ้ านขาดทุนกันไป
2. ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
คนส่วนใหญ่ ถึงทำงานหนัก กระเป๋าหนัก แต่มักใช้จ่ายหนักด้วยจึงรวยไม่สำเร็จ ตรงกันข้ามกับ ”เจ้าของเงินล้าน” ที่ทั้งทำงานหนัก กระเป๋าหนัก แต่คิดหนักด้วยเมื่อใช้จ่าย
เปรียบคนทั่วไป เป็นนักฟุตบอลกองหน้าที่มุ่งแต่จะทำเกม จนเสียประตูแต่คนรวยพวกนี้ ให้ความสำคัญกับ การรักษ า ประตูเท่า ๆ กับการทำเกม คนทั่วไปใช้ชีวิตเกินฐานะ
ที่แท้จริง แต่คนรวยใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะ – ถึงจะมีคนรวยมาก ๆ บางราย ที่แสดงการใช้ชีวิตอย่างสุดหรู แต่คนรวยโดยทั่วไปใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่แท้จริงคนรวยส่วนใหญ่
(แต่ไม่ใช่ทั้งหมด – เพราะเราจะเห็นแต่ชีวิตของคนรวย บางส่วนที่เขาแสดงให้เห็นต่อสาธารณะส่วนคนรวยที่รวยเงียบ ๆ เราก็จะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ไม่ใช่ไม่มีอยู่)
จะไม่ไหลไปตามกระแสวูบวาบพวกเขาต้องการอิสระทางการเงินและจะไม่เป็นท าส ของสิ่งต่างๆ พย าย ามทำตัวเอง เป็นนักล งทุ นสามารถทำได้แม้จะเป็นพนักงานประจำ
แต่ต้องฉลาดในการเลือกล งทุ น ตอนนี้มีหลายคนที่ทำงานประจำไปด้วย แต่ล งทุ นในหุ้นไปด้วยซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมที่ดีแต่การล งทุ น ทุกอย่างมีความเสี่ ย งหมด
ดังนั้น ก่อนที่จะล งทุ นไม่ว่าจะเป็นการล งทุ นประเภทใดต้องศึกษาให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นจากที่จะได้เงินงอกเงยขึ้นมา เงินนั้นอาจจะหายวับไปกับตาก็ได้
3. มุ่งสร้างตัวด้วยสองมือเปล่า ไม่สนใจมรดกหรือ การสนับสนุนจากพ่อแม่
80% ของ “เจ้าของเงินล้าน” สร้างเงินล้านด้วย มือเขาเองล้วนๆ น้อยคน ที่จะพี่งพาพ่อแม่ หรือเฝ้ารอมรดก ยิ่งเริ่มต้นจากมือเปล่า พวกเขาก็ยิ่งแกร่งเจ้าของ เงินล้าน
ส่วนใหญ่ สามารถยืนได้บนลำแข้งของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย
4. ให้ความสำคัญกับอิสรภาพทางการเงินมากกว่าสถานะทางสังคม“
“เจ้าของเงินล้าน” ตัวจริงชอบใช้ชีวิต แบบชนชั้นกลางอยู่ในบ้ าน ขนาดพอสบาย ขับรถยี่ห้อทั่วๆ ไป ที่ใช้งานได้ดี พวกเขาไม่ชอบแข่งขันเอาหน้ากับใคร จึงไม่ต้องมีหนี้
ก้อนใหญ่ไว้คอยฉุดดึงชีวิต วันก่อนได้ไปร่วมบรรย ายเรื่องการวางแผนการเงิน พบว่า สาเหตุหนึ่งของการมีหนี้เยอะ คือ การชอบเปรียบเทียบกับ ชาวบ้ านเห็นข้างบ้ านมีอะไร
แล้วต้องมีมากกว่า ดีกว่า ไม่รู้แข่งขันไปได้ประโยชน์อะไรเพราะ สุดท้ายคนที่ h a p p y คือ คนขายของ ส่วนคนที่ทุกข์ คือ ตัวเราเอง
5. ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการวางแผนสร้างตัว
“เจ้าของเงินล้าน” มักใช้เวลา เฉลี่ย วันละ 8 ชั่ วโมง กับการวางแผนชีวิต ขณะที่คนทั่วไปใช้เวลาคิดแต่เรื่องหาความสุข หลายคนเมื่อพูดถึงเรื่อง การวางแผนการเงิน
มักจะบอกว่าไม่มีเวลาทั้งที่จริงๆ แล้วใช้เวลาน้อยมาก ไม่กี่นาทีในแต่ละวันแต่กลับมีเวลาเดินตลาดเพื่อใช้จ่ายเงิน วันละกว่าชั่ วโมง คนทั่วไปมองการเริ่มธุรกิจส่วนตัว
ว่าเป็นความเสี่ ย ง แต่คนรวย (และคนที่มีโอกาสรวย) จะมองเป็นเส้นทางสู่ฐานะที่มั่งคั่ง – คนทั่วไปมองเงิน มองด้วยสมการเส้นตรงเช่น สมมติทำงาน ได้ชั่ วโมงละ $X ถ้า
ยอมทำงานเยอะขึ้น ก็จะได้เงินมากขึ้น แม้แต่ผู้ที่มีการศึกษาดี ก็คิดว่าการเรียน MBA จะช่วยให้ได้เงินมากขึ้น (ก็จริง แต่ก็เป็นการมองแบบเส้นตรงเช่นกัน คือให้เวลา
กับการเรียน เพื่อสุดท้ายจะเอาวุฒิไปต่อรองรายได้ให้มากขึ้น) … ส่วนคนรวยจะมองที่ไอเดีย โดยเฉพาะไอเดีย ที่จะช่วยแก้ปัญหา (และตอบโจทย์ความต้องการ)
ของผู้คนได้และทำเงิน จากเรื่องเหล่านี้ … แต่ถึงกระนั้น คนรวยก็ไม่ได้กระโดดเข้าใส่ไอเดีย อย่างไม่ลืมหูลืมหา เขาจะศึกษาความเสี่ ย ง อย่างดีก่อนที่จะลงมือทำ
ขอบคุณที่มา : s a n o o k