Home ข้อคิด 3 แนววิธีคิด เมื่อเราโดนนินทา ให้อยู่ได้แบบสบายใจ

3 แนววิธีคิด เมื่อเราโดนนินทา ให้อยู่ได้แบบสบายใจ

8 second read
0
0

1. ให้มีจิตใจมั่นคงดุจภูผา

ถ้าเรามีความ บริสุทธิ์ใจ ทำการงานด้วยความตั้งใจ ปรารถนาดี แต่แล้วก็ยังไม่พ้นถูกคนนินทา กล่าวร้ าย ว่า อย่างนั้น อย่างนี้ก็ขอให้เรามีความมั่นใจ

ในความดีของเราอุปมาภูผาหินแท่งตันไม่หวั่นไหวในลมพายุฉันใดบัณฑิตผู้มีจิตใจหนักแน่นในความดี ย่อมไม่หวั่นไหว ในคำสรรเสริญและคำนินทาแม้ฉันนั้น

2. เป็นธรรมดาของโลก

ให้คิดว่านี่ เป็นธรรมดาของโลก ไม่เคยมีใครสักคนบนโลกนี้ที่รอดพ้นจากคำนินทาเพราะแม้แต่พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า ของเรา ขนาดท่านเป็นผู้ที่ประเสริฐ

บริสุทธิ์สูงสุด แต่ท่านก็ยังไม่พ้นถูกคนพ าลกล่าวโจ มตีว่าร้ ายจนได้ แล้ว นับประสาอะไรกับเรา ที่เป็นแค่คนธรรมดาสามัญ ที่ยังมีทั้งดีและชั่ ว จะรอดพ้น

ปากคนนินทาไปได้คิดอย่างนี้แล้ว จะได้สบายใจว่า การถูกนินทานี่เป็นแค่เรื่องธรรมดา เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลก (โลกธรรม) และยังคงมีอยู่ต่อไป

ตราบชั่ วฟ้าดินสลาย

3. คิดหาประโยชน์จากคำนินทา

คนที่คิดกล่าวร้ ายเรา บางทีเขาต้องไปนั่งคิดนอนคิดหาจุดอ่อนในตัวของเราเพื่อเอามาพูด โ จ ม ตี บางทีจุดอ่อนเหล่านี้ ตัวเราเองก็มีอยู่จริงแต่ทว่า

เราไม่รู้ตัวมาก่อนนี้ เป็นประโยชน์มาก เพราะเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนาปรับปรุงตนเองได้ ดังนั้นเราจึงควรที่จะขอบคุณคนนินทาเรา

เพราะเขาอุตส่าห์ไปนั่งคิดนอนคิด ช่วยค้นหาข้อมูลมาช่วยให้เราปรับปรุงตนเอง

4. ให้มีจิตเมตตาสงส ารผู้นินทา

ให้คิดด้วยความเมตตา กรุณาว่า คนที่นินทาเรานั้น ย่อมกระทำไปด้วยความอิจฉาริษย า เขาจะต้องเผาลนจิตใจของเขาให้ร้อนรุ่มเสียก่อนจึงจะสามารถ

พูดนินทาว่าร้ ายคนอื่น ออกมาได้ ให้คิดเมตตาสงส าร แทนที่จะไปโกรธเคืองเขาอนึ่ง คนที่ชอบกล่าววาจา ส่ อ เ สี ย ด หรือชอบนินทาว่าร้ าย ผู้อื่น

โดยปรกติเขาย่อมเป็นผู้หามิตรสหายที่ใกล้ชิดไม่ค่อยได้เพราะไม่เคยมีใครไว้วางใจ คนที่ชอบนินทาว่าร้ ายผู้อื่น ให้คิดเห็นใจเขาในฐานะที่เขาต้องเป็น

ผู้อยู่ในโลกนี้ ด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยวเพราะเขาย่อมหาเพื่อนแท้ไม่ได้

5. คิดวิเคราะห์ให้เห็นปัญหาสังคม

สังคมไทย เป็นสังคมที่มีความสัมพันธ์ในแนวดิ่ง คือ เน้นเรื่องการใช้อำนาจครอบงำกันและกัน จึงมีการปลูกฝังสอนให้คิดแข่งดีแข่งเด่น คิดเหนือผู้อื่น

สอนให้อย ากเป็นใหญ่เป็นโต (มานะ) มาตั้งแต่โบราณ (คาดว่าไม่ต่ำกว่าห้าร้อยปี คือตั้งแต่สมัยอยุธย าตอนต้น)ทำให้คนไทยเรา เวลาเห็นใครทำดี

ก็มักจะเกิด ความริษย าโดยไม่รู้ตัว คือทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นดีกว่าตนสังคมที่มีความสัมพันธ์ ในแนวดิ่งเช่นนี้ ผู้คนจึงมักจะชอบนินทาว่าร้ าย กันและกัน

เป็นเรื่องธรรมดาถ้าคิดวิเคราะห์ได้เช่นนี้แล้วก็สบายใจไม่ต้องไปเดือดเนื้ อร้อนใจอะไรมาก ให้ถือว่าการที่เราถูกนินทานี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์

ทางสังคมก็แล้วกันมันเป็นเช่นนั้นเองในอนาคตไม่แน่หากมีการศึกษาเรื่องพุทธธรรมกับสังคมไทยกันอย่างจริงจัง บางทีเราอาจจะสามารถเปลี่ยงแปลง

ความสัมพันธ์ทางสังคมจาก “แนวดิ่ง” ให้เป็น “แนวราบ” คือ คนไทยมีความเสมอภาคกันไม่ถืออำนาจเป็นใหญ่

แต่ถือความถูกต้องดีงาม เป็นใหญ่ เมื่อถึงเวลานั้นสังคมที่เต็มไปด้วยการนินทาว่าร้ าย ก็จะลดน้อยลงไปเองตามธรรมชาติแล้ว ภาษิตยอดฮิตที่ว่า

“สังคมเสื่ อ ม ถอยเพราะคนดีท้อแท้” หรือ “ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย” จะได้เลิกใช้กันเสียที

ขอบคุณที่มา : p a t t a n a k i t.n e t

Load More Related Articles
Load More By Friend
Load More In ข้อคิด

Check Also

10 ข้อคิด ในการใช้ชีวิตแบบคุ้มค่า เปลี่ยนตัวเองใหม่ใน 1 อาทิตย์

ในปัจจุบันมนุษย์ที่ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวอย่ างพวกเรา จำเป็นจะต้องปรับตัวปรั…