Home ข้อคิด พ่อแม่อยากให้ลูกได้ดี มีอนาคต ต้องรู้จักทำ 3 อย่าง

พ่อแม่อยากให้ลูกได้ดี มีอนาคต ต้องรู้จักทำ 3 อย่าง

6 second read
0
0

พ่อแม่หลายคน ชอบช่วยเหลือ ลูกอยู่ตลอดเวลา เพราะ กังวลว่าลูกจะทำอะไรหลายๆ อย่างได้ไม่ดีพอ แต่คุณรู้ไหมว่า การทำแบบนี้จะเป็นการทำให้ลูกของคุณกลายเป็น

คน อ่ อ น แ อที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ วันนี้มีงานวิจั ย เผยว่า 3 ข้อ ที่หากแม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย หรือมีส่วนช่วยเหลือลูกๆได้น้อยที่สุดจะส่งผลดีกับลูกมากที่สุด

1. แม่ต้องขี้เกียจบ่นหรือพูดมาก ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเติมโตด้วยตนเอง

พ่อแม่หลายคนชอบสร้างความคาดหวัง ในตัวลูกมากเกินไป อย ากให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองนั้นต้องการเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูก แต่การทำแบบนี้จะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด

กดดัน และกลายเป็นไม่อย ากฟังและทำเป็นหูทวนลม ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่แม่พูด แต่มีครอบครัวหนึ่ง ที่กลับทำตรงกันข้ามในช่วงสุดสัปดาห์ ต้นเล่นเกมเป็นเวลานานมาก และไม่ทำการบ้ าน

แม่จึงถามเขาว่า“ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง” ต้นตอบว่า : “ขอเล่นอีก 10 นาที” แม่ตอบกลับไปว่า “โอเค ต้องรักษ าคำพูดนะ” พอผ่านไป 10 นาที แม่ก็เดินกลับมาดูอีก ต้นก็ยังคง

นั่งเล่น อยู่ที่เดิม แม่ โ ก ร ธ มากแต่ก็ต้องสงบสติอารมณ์ และพูดอย่างใจเย็นว่า “ปกติลูกเป็นคนรักษ าคำพูดไม่ใช่หรอ” ในตอนนั้น ต้นเริ่มรู้สึกผิด จากนั้นก็เดินไปปิดสวิทช์

และรีบไปทำการบ้ านทันที นั้นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้แม่ของต้นเคยพูดหลายรอบเกี่ยวกับนิทานเรื่อง “การเป็นคนน่าเชื่อถือ” และ นั้นก็ทำให้ต้นค่อยซึมซับเข้าไปในจิตใจ

ปกติแม่จะเป็นคนที่ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการอ่ านหนังสือ ทบทวนตำราเป็นอย่างมากจึงได้ซื้ อนิทานสร้างแรงบันดาลใจให้อ่ านมากมาย และจากนิทานเหล่านี้ ทำให้ต้นเรียนรู้

ที่จะนำมาใช้กับตนเอง เสริมสร้างการควบคุมนิสัย ของตนเอง การอดทนอดกลั้นด้านจิตตานุภาพเพื่อให้ตนเองเป็นคนที่มีคุณภาพยิ่งขึ้นประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขี้เกียจ”

ไม่ขยันที่จะบ่นทั้งวันแต่ใช้เหตุผลในการพูดคุย เพราะเธอรู้ดีว่าลูกไม่ชอบการบ่นแต่เธอขยันในการหาวิธีในการรับมือ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและคุณภาพที่ดีเยี่ยมให้ลูก

2. แม่ต้องขี้เกียจขยับมือ สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตนเอง

คุณแม่กุ๊ก เผยประสบการณ์ว่า เธอจะไม่เข้าไปช่วยลูกในสิ่งที่ พวกเขาสามารถทำได้เอง เช่น เมื่อห้องนอนของกุ๊กไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย แม่จะเตือนกุ๊กว่า ควรจัดห้องอย่างไร

เพื่อให้เป็นระเบียบแต่จะไม่เข้าไปทำให้ลูกเอง เธอปล่อยให้ลูกได้ทำด้วยตัวเองช่วงเปิดภาคเรียน คุณครูขอให้นักเรียนห่อปกหนังสือเรียนเล่มใหม่ของเทอมนี้ แต่กุ๊กทำไม่เป็น

แม่จึงสอนกุ๊กห่อ 1 เล่มก่อนเป็นตัวอย่างให้กุ๊กดูจากนั้นก็ปล่อยให้กุ๊กลองทำเองทั้งหมด กุ๊กไม่อย ากห่อเอง จึงไม่ยอมขยับมือ แม่ก็ไม่สนใจเธอได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ พร้อม ชี้นิ้วบอก

ให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่เข้าไปช่วยห่อ ทำให้กุ๊กต้องนั่งห่อเองทั้งหมดแม่ของกุ๊กบอกว่า “ความจริงถ้าฉันจะเข้าไปช่วยห่อ จะประหยัดเวลาได้มาก แต่กุ๊กจะไม่มีวันเรียนรู้

ที่ห่อปกหนังสือเองได้เลย ดังนั้นนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้กุ๊กห่อเอง แม้ว่าจะห่อไม่เรียบร้อยก็ตาม”ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขี้เกียจ” ไม่เคยขยันหมั่นเพียร

ในการช่วยเหลือลูก ในการทำสิ่งต่างๆ แต่ให้ลูกทำเอง เพื่อจะได้พึ่งพาอาศัยตัวเองช่วยเหลือตัวเองได้และไม่เฉยเมยต่อการฝึกฝนสร้างความรับผิดชอบให้กับลูก

3. แม่ต้องขี้เกียจ ไม่เข้าไปช่วยลูกทำการบ้ าน

มีคุณแม่คนหนึ่ง เล่าประสบการณ์ว่า ตนเองไม่เคยไปสอนการบ้ าน ให้ลูกชายเลย แม่จะเตือนลูกมากกว่าว่าเวลาไหนควรไปทำการบ้ านได้แล้ว เมื่อทำเสร็จแล้วก็บอกแม่คำหนึ่ง

ก็พอส่วนการตรวจสอบว่าลูกชายทำถูก หรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของตัวเขาเองหรือให้เรียนรู้ว่าถูก หรือผิดจากที่โรงเรียน แม่มีหน้าที่แค่เซ็นชื่อเท่านั้นในตอนแรกลูกชายไม่พอใจ

เป็นอย่างมากโดยบอกว่า “แม่ของคนอื่นจะช่วยตรวจการบ้ านให้ด้วย ทำไมแม่ขี้เกียจแบบนี้” เธอตอบลูกชายไปว่า “ ไม่ใช่เพราะแม่ขี้เกียจหรอกนะลูกคิดดูสิ หากแม่ช่วยลูก

ตรวจ การบ้ าน แล้วลูกจะรู้ได้อย่างไรว่าผิดตรงไหนบ้ าง แล้วต่อไปลูกจะตรวจเองเป็นไหม ตอนสอบหากผิดลูกจะรู้ไหม ว่ามันผิดตรงไหน จงจำไว้นะว่าในตอนนั้นไม่มีใครสามารถ

มาช่วยลูกตรวจข้อสอบได้ ลูกจะได้ฝึกการตรวจความถูกต้อง และเรียนรู้ด้วยตัวเอง ”ในห้องเรียนลูกจะเจอ บทเรียนก่อน และ จึงจะได้ทำข้อสอบ แต่ ในโลกแห่งความเป็นจริงลูกจะได้

เจอบททดสอบก่อน แล้วถึงจะได้บทเรียน นี่คือสิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด เธอสอนให้ลูกรู้จักพึ่งตนเอง เมื่อพบเจอปัญหาก็ต้องคิดใคร่ครวญเองหากคิดไม่ออกจริงๆค่อยถาม

แม่หรือขอคำแนะนำจากแม่ได้ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขี้เกียจ”ไม่เคยชี้นำลูกให้เรียนรู้ แต่ปล่อยให้ลูกทำอย่างอิสระ และคิดอย่างอิสระ แต่เธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เธอยังให้

ความสนใจกับลูก และใช้วิธีการที่ชาญฉลาด เพื่อช่วยแก้ปัญหาเมื่อลูกมีปัญหามันสอนให้รู้ว่าผู้ปกครองควรที่จะปล่อยลูกของตัวเองบ้ างในเวลาที่สมควร ให้เขาได้เรียนรู้ และใช้ชีวิต

ของตัวเองให้เต็มที่ สิ่งที่ตัวอย่างแม่ๆ ทั้งหลายทำนั้น มันเป็นวิธีในการปลูกฝังลูกน้อยที่ดีมากเพื่อให้เขาสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง และช่วยเหลือตัวเองได้พ่อแม่ทุกคนมักจะกังวล

กับลูก จนไม่กล้าปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้และทำอะไรด้วยตัวเขาเองคุณควรเอาความกังวลเก็บไว้ในใจ และปล่อยให้เขาโบยบิน ไปด้วยวิธีของเขาเองเพื่อให้เขามีปีกที่แข็งแรงพอ

และอยู่ได้ด้วยตัวเองในวันที่ไม่มีคุณปกป้องถ้าอย ากให้ลูกเป็นคนใจเย็น ให้ฝึกการรอคอย ถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ ถ้าอย ากให้ลูกพูดเพราะ

และ มีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวันถ้าอย ากให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จักรักษ าคำพูด ถ้าอย ากให้ลูกแก้ปัญหาได้ ให้ฝึกให้เจอปัญหาบ่อยๆ ถ้าอย ากให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็น

ให้ฝึกถามเพื่อให้ลูฏกล้าแสดงความคิดเห็น

ขอบคุณที่มา : l i f e b e e p e r

Load More Related Articles
Load More By Friend
Load More In ข้อคิด

Check Also

10 ข้อคิด ในการใช้ชีวิตแบบคุ้มค่า เปลี่ยนตัวเองใหม่ใน 1 อาทิตย์

ในปัจจุบันมนุษย์ที่ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวอย่ างพวกเรา จำเป็นจะต้องปรับตัวปรั…