บางทีการใจเย็นและการมีสติ จะทำให้เราดูมีวุฒิภาวะ เพิ่มมากขึ้นในการใช้ชีวิต เมื่อเราโตขึ้นเราต้องตัดนิสัยเด็ก ๆ ทิ้งไป เช่น นิสัยชอบโวยวาย ใจร้อน ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล เ พราะว่าการกระทำเหล่านั้น มักจะส่งผลเสียต่อเรามากกว่าผลดี
ทำให้บางครั้งเราอาจจะเดือดร้อนเ พราะนิสัยเหล่านี้ได้เชื่อเถอะนะว่าคนที่ใจเย็นและมีสติ มักจะดูมีเสน่ห์ในสายตาของคนอื่น มากกว่าคนที่มีนิสัยใจร้อน และขา ดสติยับยั้งชั่งใจ อีกทั้งยังจะช่วยให้เรามีบุคลิกที่ดี ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งมันเป็นเสน่ห์ที่เราสามารถสร้างมันได้
เพรา ะฉะนั้นเวลาจะเกิดอะไรก็ตาม เราควรที่จะใจเย็น และใช้สติในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ จะดีกว่านะ เ พราะมันดูเป็นคนมีวุฒิภาวะมากกว่าคนที่ใจร้อน ชอบโวยวายและใช้อารมณ์ตัดสินมาก ๆ เลยล่ะ
และเรามี 5 วิธีฝึกเป็นคนใจเย็นมาฝาก ดังนี้ค่ะ
1. เอ่ยขอบคุณให้มากขึ้น
การขอบคุณมีประโยชน์มากมาย การวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การขอบคุณทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น เครียดน้อยลง และช่วยทำให้มองโลกในแง่ดีมากขึ้น และการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ ในวารสารด้านจิตวิทย า Psychological Science ในปี 2014 ยังพบอีกว่า
การขอบคุณสามารถช่วยให้เรามีความอดทนมากขึ้น ขณะที่ Ye Li นักวิจัยและผู้ช่วยศาสตราจารย์ จากคณะบริหารธุรกิจ แห่งมหาวิทย าลัยแคลิฟอร์เนียริเวอร์ไซด์ ได้เปิดเผยว่า การที่เราแสดงออกว่าเรารู้สึกอย่ างไร จะช่วยให้เราควบคุมตัวเองได้ดีขึ้น แถมยังช่วยลดการขา ดความอดทนลงได้
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องย ากค่ะ ในการฝึกขอบคุณ ก็แค่เพียงเราเอ่ยคำว่าขอบคุณ กับคนที่ทำบางสิ่งให้คุณด้วยรอยยิ้ม หรือนึกขอบคุณตัวเองเมื่อสามารถทำบางสิ่งได้ เมื่อเราขอบคุณจนเป็นนิสัย ก็จะทำให้เรามองโลกในแง่ดีและมีความอดทนมากขึ้นได้อย่ างแน่นอนค่ะ
2. มีสติให้มากขึ้น
เชื่อว่าหลายคนก็คงต้องเคยวอกแวก ทำในสิ่งที่เราไม่รีบร้อน แทนที่จะทำในสิ่งที่เร่งด่วนมากกว่า โดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว นั่นก็เป็นเ พราะเรา ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ ได้ หลายครั้งที่ความคิดของเรา มักโดดไปมาระหว่างเรื่องนั้นเรื่องนี้
จนทำให้เราไม่สามารถควบคุมความคิดตนเองได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เรารู้สึกยุ่งย าก และวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เรากลายเป็นคนเร่งรีบ และมีความอดทนน้อยลง การมีสติและการตระหนัก ถึงความคิดของเราอยู่เสมอ จะช่วยทำให้เราสามารถจัดระเบียบ
ความคิดของเราได้ดียิ่งขึ้น ลองเขียนความคิดต่าง ๆ ของคุณ ลงในกระดาษดูค่ะ จะช่วยให้คุณจัดการความคิดของตัวเองได้ และทำให้เรารู้ว่าสิ่งใดที่ทำให้เรารู้สึกรีบเร่ง หรือทำให้เราไม่มีความอดทน วิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถควบคุมความคิดไม่ให้วอกแวกได้ง่าย ๆ ค่ะ
3. ฝึกตัวเองให้รู้จักการรอคอย
ความพึงพอใจที่เกิดขึ้น เมื่อได้รับในสิ่งที่ต้องการทันทีทันใด แม้จะทำให้เรารู้สึกดี แต่นักวิจัยทางจิตวิทย ากลับมองว่า มันให้ความหมายที่ตรงข้ามกัน โดยในการศึกษาหนึ่งพบว่า การรอคอยบางสิ่งจะทำให้เรารู้สึก มีความสุขในระยะย าวมากกว่า
ซึ่งการทำให้เรามีนิสัยการรอคอยที่ดีที่สุด ก็คือการฝึกตัวเองให้รู้จักการรอนั่นเอง โดยอาจจะเริ่มจากการรอในระยะเวลาสั้น ๆ สัก 10 นาที หรือการรอคอยรายการโทรทัศน์ ที่ชอบที่ฉายในช่วงวันหยุด เมื่อเราสามารถรอจนเป็นนิสัยได้แล้ว ก็จะทำให้เรามีความอดทนมากขึ้นอย่ างไม่น่าเชื่อ
แถมยังทำให้คุณมีความสุข และไม่หงุดหงิดเมื่อต้องพบกับ สถานการณ์ที่ต้องรอนาน ๆ อีกด้วย
4. ฝึกยอมรับความย ากลำบากให้ได้
บางครั้งความสะดวกสบายก็ไม่ได้ดีเสมอไป เพรา ะความสะดวกสบายเหล่านั้น จะทำให้เรารู้สึกมีความอดทนน้อยลง และเมื่อเราต้องเจอกับความย ากลำบาก เราจึงไม่สามารถอดทนกับมันได้ ดังนั้น เราจึงควรที่จะฝึกให้ตนเองทนกับความย ากลำบาก และความไม่สะดวกสบายให้ได้
และเมื่อเราสามารถอดทนกับสิ่งเหล่านั้นได้ เราก็จะมีความอดทนมากขึ้น และสามารถมีความสุข แม้ว่าต้องพบเจอกับสิ่งที่ดูย ากลำบากก็ตาม
5. หายใจลึก ๆ
เมื่อเรารู้สึกว่าหลาย ๆ สิ่งมันไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวังไว้ การถอนหายใจแล้วหายใจเข้าลึก ๆ ก็สามารถช่วยให้เราสงบจิตใจ และร่างกายตัวเองได้ ซึ่งวิธีการผ่อนคลายง่าย ๆ นี้ จะช่วยลดความกระวนกระวายใจ ที่ซึ่งจะนำพาความรู้สึกในแง่ลบต่าง ๆ อย่ างเช่น อารมณ์หงุดหงิด เสียใจ ผิดหวัง
หรือโกรธเคืองลงได้ ความอดทนเป็นสิ่งที่เราต้องฝึกฝนด้วยตนเอง เช่นเดียวกับการมองโลกในแง่ดี เ พราะไม่มีใครสามารถช่วยเราได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องย ากที่เราจะทำ ถ้าหากเรามีความอดทนมากขึ้น เราก็จะมีความสุขมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งของภายนอกเลยค่ะ
ขอบคุณที่มา :kapook